1. ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
KOHA เป็นระบบที่พัฒนาขึ้นในประเทศนิวซีแลนด์ ปัจจุบันได้รับการพัฒนาและนำไปใช้อย่างกว้างขวาง Koha ทำงานบนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์หรือวินโดวส์ ระบบจัดการฐานข้อมูล MySQL หรือ
PostgreSQL ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ทั้งในส่วนของระบบ และส่วนของผู้ใช้งาน และมีซอฟต์แวร์บริการเว็บเป็น Apache ซึ่งล้วนแต่เป็นซอฟต์แวร์แบบเปิดเผยรหัสและไม่คิดค่าลิขสิทธิ์ ทำงานได้บนสถาปัตยกรรมแบบ Client/Server โดยใช้ Perl เป็นตัวพัฒนาในการเข้าถึงข้อมูลและเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลสามารถนำไปใช้งานในการยืม-คืน การค้นหาข้อมูล และรองรับการใช้งานในห้องสมุด สำหรับระบบงานของระบบห้องสมุดอัตโนมัติ KOHA นั้นประกอบด้วย ระบบงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ ระบบงานทำรายการทรัพยากรสารสนเทศ ระบบงานควบคุมวารสาร ระบบงานยืม-คืน และ ระบบงานสืบค้นสารสนเทศออนไลน์นอกจากนี้ยังสามารถสร้างระบบบาร์โค้ดได้ รองรับมาตรฐานการลงรายการแบบ MARC การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้วย Z39.50 และเป็นระบบการใช้งานผ่านเว็บในปัจจุบัน Koha ที่ได้รับความนิยมแพร่หลายคือ KohaZOOM ส่วนระบบดั้งเดิมจะรู้จักในชื่อ Koha Classic มีบริษัท Liblime เป็นบริษัทร่วมในการพัฒนาระบบ
โมดูลหลัก ได้แก่
1. ระบบงานพัฒนาทรัพยากร (Acquisiton Module)
- เตรียมข้อมูลก่อนการสั่งซื้อไปจนถึงกระทั่งการชำระเงินและการทำรายการ
- มีระบบป้องกันการสั่งซื้อซ้ำ
- มีระบบคำนวณอัตราการแลกเปลี่ยนเงินจากสกุลหนึ่งไปอีกสกุลหนึ่ง
- เตือนเมื่อมีการใช้งบประมาณมากเกินไป
2. ระบบงานวิเคราะห์ทรัพยากรสารสนเทศ (Cataloging
Module)
- ทำรายการระเบียนบรรณานุกรม ทรัพยากรสารสนเทศ
- สามารถบันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบได้หลายวิธี เช่น บันทึกเข้าสู่ระบบโดยตรง
การถ่ายจากเทปแม่เหล็ก การถ่ายข้อมูลทางระบบออนไลน์โดยตรงจากข่ายงานทางบรรณานุกรม
ผ่าน Z39.50 และฐานข้อมูล อื่น ๆ ที่เก็บด้วยซีดีรอม
- แก้ไขจุดใดจุดหนึ่งที่ต้องการแก้ไขให้เหมือนกัน
ระบบจะเปลี่ยนแปลงให้อัตโนมัติทั้งระบบ
3. ระบบงานยืม-คืน (Circulation Module)
- การยืม-คืน และยืมต่อ
- การทวง
- การจอง และการสำรองหนังสือ
- การพิมพ์การทวง การคิดอัตราค่าปรับ และการออกใบเสร็จรับเงิน
4. ระบบงานควบคุมสิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง (Serial
Control Module)
- ลงทะเบียนวารสารไปจนถึงการเย็บเล่ม
- การลงทะเบียนวารสารจะใช้กราฟิกแสดงบัตรทะเบียนวารสาร (Kardex) นอกจากนี้ระบบควบคุมทะเบียนวารสารจะถูกเชื่อมโยงเข้ากับระบบงานหลักอื่น ๆ
เช่น ระบบงานพัฒนาทรัพยากรห้องสมุด ระบบงานยืม-คืน และระบบการสืบค้นออนไลน์
- สามารถตรวจสอบราคาค่าบอกรับ
หรือจ่ายเงินค่าบอกรับวารสารจากระบบพัฒนาทรัพยากรห้องสมุด
5. ระบบงานสืบค้นออนไลน์ (Online Public Access
Catalog - OPAC Module)
- เป็นระบบงานที่ใช้ในการสืบค้นสารสนเทศ สามารถค้นได้จากชื่อเรื่อง
ชื่อผู้แต่ง หัวเรื่อง ตรรกบูลีน เป็นต้น
ภาพตัวอย่างระบบ Koha
Clip แนะนำการใช้งาน Koha
2. มีผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในประเทศไทยหรือไม่ หากไม่มีจงหาว่ามีประเทศใดนอกเหนือจากประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ - จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส ยกตัวอย่างพร้อม URL ของระบบสืบค้น
- มีใช้ในประเทศไทย
สำหรับในประเทศไทยนั้นระบบห้องสมุดอัตโนมัติแบบโอเพนซอร์สได้เริ่มต้นนำมาใช้ในหน่วยงานของรัฐที่ศูนย์บริการความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ศวท.) โดยได้นำระบบห้องสมุดอัตโนมัติ Koha มาพัฒนาและทดลองใช้ พร้อมทั้งได้เผยแพร่ไปยังกลุ่มห้องสมุดต่างๆ ที่สนใจอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันได้มีห้องสมุดขนาดกลางและขนาดเล็กได้นำระบบห้องสมุดอัตโนมัติ Koha ไปใช้ในการจัดการงานห้องสมุดมากขึ้น
สำนักหอสมุด ได้พัฒนาระบบห้องสมุดอัตโนมัติแบบโอเพนซอร์สขึ้นโดยใช้ Koha เป็นแนวทางในการพัฒนาและได้ทดสอบใช้ในงานห้องสมุดศูนย์ความรู้ด้านการเกษตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จนทำให้ได้ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ จินดามณี ซึ่งเป็นระบบห้องสมุดอัตโนมัติแบบโอเพนซอร์ส ระบบแรกของไทย
สืบค้นวันที่ 2 มีนาคม 2013 (ออนไลน์). http://www.libraryhub.in.th/2009/06/21/koha-open-source-for-ils/
3. สรุปข้อดีและข้อเสียของผลิตภัณฑ์
ข้อดี
1. มี Community Koha สามารถเข้าไปศึกษาและตอบปัญหาได้
2. มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
3. เป็นระบบ Web-based
4. มีบรรณารักษ์ที่ช่วยในการเสริมจุดอ่อนของซอฟต์แวร์
5. ค่าใช้จ่ายในระยะยาวต่ำ
6. ระบบเปิด ทำให้ปรับระบบได้ตามความต้องการ
1. มี Community Koha สามารถเข้าไปศึกษาและตอบปัญหาได้
2. มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
3. เป็นระบบ Web-based
4. มีบรรณารักษ์ที่ช่วยในการเสริมจุดอ่อนของซอฟต์แวร์
5. ค่าใช้จ่ายในระยะยาวต่ำ
6. ระบบเปิด ทำให้ปรับระบบได้ตามความต้องการ
7. ลดการนำเข้าของซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ
8. เป็นต้นแบบให้กับห้องสมุดขนาดกลางและขนาดเล็ก
8. เป็นต้นแบบให้กับห้องสมุดขนาดกลางและขนาดเล็ก
ข้อเสีย
1. มีผู้ใช้ในประเทศไทยน้อย
2. ต้องอาศัยบรรณารักษ์ที่ชำนาญในการทดสอบระบบ
3. มีหลายฟังก์ชั่นในการทำงาน ทำให้เสียเวลาในการทดสอบระบบ
4. การถ่ายโอนข้อมูล อาจมีความผิดพลาด ต้องอาศัยบรรณารักษ์เป็นผู้ตรวจสอบก่อนและหลังการถ่ายโอน
1. มีผู้ใช้ในประเทศไทยน้อย
2. ต้องอาศัยบรรณารักษ์ที่ชำนาญในการทดสอบระบบ
3. มีหลายฟังก์ชั่นในการทำงาน ทำให้เสียเวลาในการทดสอบระบบ
4. การถ่ายโอนข้อมูล อาจมีความผิดพลาด ต้องอาศัยบรรณารักษ์เป็นผู้ตรวจสอบก่อนและหลังการถ่ายโอน
No comments:
Post a Comment